วีวอทช์ โวย ไม่เหมือนที่คุยไว้! เลือก ส.ว.ประเทศให้คนสังเกตการณ์แค่ 20 ซ้ำโดนหั่นเหลือ 15
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่ ห้อง 322 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ โครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw และ We Watch จัดเสวนา “สว.67 ทางข้างหน้าจากสิ่งที่เห็น” เพื่อสรุปบทเรียนและข้อสังเกตจากการเลือกการส.ว.ระดับประเทศที่ผ่านมา รวมถึงร่วมมองอนาคตการเมืองไทยหลังเห็นรายชื่อว่าที่ส.ว.
ในเสวนาช่วง ‘เห็นกันตำตา กับบทเรียนในระดับประเทศ’ มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ว่าที่ ส.ว.กลุ่ม 18 สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม, นางนุชนารถ แท่นทอง รายชื่อสำรองกลุ่ม 17 ประชาสังคม, นายกฤต แสงสุรินทร์ We Watch และนางสาวบุศรินทร์ แปแนะ จาก iLaw
นายกฤต กล่าวว่า ในเรื่องของจำนวนคนที่เข้าไปสังเกตการณ์ไม่ตรงกับที่ตกลงไว้กับ กกต. โดยภาคประชาชนเข้าไปคุยกับ กกต. ในเรื่องเกี่ยวกับ ส.ว. ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถามถึงการออกระเบียบ พ.ร.ป. เกี่ยวกับ ส.ว. เมื่อไหร่? และจะมีการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์อย่างไรบ้าง จนมาถึงวันที่ได้คุยกับ กกต. ก็ได้มีการคอนเฟิร์มให้ประชาชนสามารถเข้าสังเกตการณ์ได้ โดยในระดับประเทศจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์ ประมาณ 20 คน โดยให้มีการแต่งตั้งก่อน มีการให้องค์กรภาคประชาชนสังคมอย่าง We Watch 10 คน ซึ่งก็ได้ส่งรายชื่อไปก่อน ต่อไปจึงให้ กกต. ได้แต่งตั้งอีกครั้ง ซึ่งพวกตนก็ได้ทักท่วงว่า การเลือกระดับประเทศ จะให้เข้าไปสังเกตการณ์แค่ 20 คน เพียงพอหรือไม่
“เราก็ได้เสนอว่า ควรเปิดให้ประชาชนทั่วไป และสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวไปสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และควรเพิ่มรายชื่อให้มากกว่า 20 คนด้วย กกต. ก็ไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนให้เรา
ทาง We Watch ก็ได้ส่งชื่อไป 10 คน เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2567 แต่เมื่อถึงวันเลือก ก็ยังไม่มีใครอะไรติดต่อมาเลยจากทาง กกต. สรุป 10 คนเข้าได้จริงไหม? เราก็เข้าใจว่า 10 คนนั้นเข้าได้แล้ว ในการเลือกระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา เราก็ได้ไปถึงเวลาที่นัดหมาย เราไปเจอ กกต. เขานัดเรา 08.00 น. พอเราไปถึง กกต. ชี้แจงว่า มีพี้นที่ให้เข้าสังเกตการณ์แค่เพียง 15 คน และ 15 คนนั้นจะต้องแบ่งกันใน 5 องค์กร ประกอบด้วย We Watch, Ilaw, สภาเด็ก, คณะกรรมธิการพัฒนาการเมือง, หอรัฐสภา และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และส่งรายชื่อให้กับ กกต. ด้วย โดย 5 องค์กร ส่งรายชื่อ 45 คน และทุกคนคาดจะเข้าหมด ก็เลยต้องหารโควต้ากันจึงเลยได้เข้าองค์กรละ 3-4 คน อยู่ที่ว่าจะตกลงอย่างไร
โดยการให้เข้า 15 คน ไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่แรก กลุ่มอาชีพมี 20 กลุ่มอาชีพ ยังยืนดูได้ไม่พอเลย โดยทุกองค์กรที่เข้ามาก็ได้เตรียมแผนสังเกตการณ์ของตนเองกระจายจุดกันดู มีทั้งแผนการกระจายที่มีประเด็นแตกต่างกันไป พอเข้าได้องค์กรละ3คน ยิ่งยากกันไปใหญ่
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ผิดจากข้อตกลง ขอย้ำว่าเรื่องสังเกตการณ์ควรเปิดให้ประชาชนดู และสื่อมวลชนที่มีบทบาทสำคัญมากในการตรวจสอบกระบวนการทั้งหมด ว่าโปร่งโสหรือไม่
โดยทาง กกต. ชอบชี้แจง ว่า กกต. ได้สร้างความโปร่งใส่โดยเปิดให้ภาคประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์ได้ โดยต้องย้ำอีกว่า ไม่ใช่เช่นนั้น ประชาชนไม่ได้เข้า สื่อมวลชนก็ไม่ได้เข้า ภาคประชาชนเข้าได้ 15 คน และไปในจุดที่มองอะไรไม่ค่อยเห็นด้วยซ้ำ ” นายกฤต กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ.รัฐศาสตร์ มึน องค์ความรู้วิชาการตามไม่ทัน เทคนิคชิง ส.ว. ชี้ ยิ่งกว่าเครือข่าย คือ โครงข่าย ทำนาย บล็อกโหวตแค่น้ำจิ้ม
