เริงโลกด้วยจิตรื่น : ปัญญากับความอยาก

ปัญญากับความอยาก

ทุกชีวิตต้องเคยมีปัญหา และต้องเจอกับปัญหาต่อไปทั้งนั้น ด้วยความเป็นไปสรรพสิ่งทั่วทุกจักรวาลล้วนขึ้นกับเหตุปัจจัยที่มาประกอบ และเกิดปฏิกิริยาส่งผลให้มีความแปรเปลี่ยนในกันและกันของแต่ละปัจจัย โดยไม่มีปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดกำหนดให้องค์ประกอบอื่นเป็นไปตามที่ปัจจัยนั้นต้องการ

ทุกชีวิตเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่มีใครควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โดยสัจธรรมเป็นอย่างนั้น แต่ธรรมชาติของปุถุชนกลับเป็นไปอีกทาง นั่นคือคนทั่วไปส่วนใหญ่ หรือจะว่าทั้งหมดก็คงไม่ผิด เพราะจะยกเว้นก็แค่มีจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกับสัจธรรมซึ่งมีน้อยมากๆ เท่านั้น

ความเป็นปกติของคนส่วนใหญ่คือจิตวิญญาณจะขับเคลื่อนด้วยความปรารถนา ความหวัง ความต้องการ ความอยาก แล้วแต่จะเรียกขาน

อยากนั่นอยากนี่ ปรารถนาจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องการจะเป็นอย่างนั้นอย่างโน้น

เมื่อตั้งปรารถนา ความอยาก ความต้องการไว้ในใจ หลังจากนั้นก็ตามด้วยคาดหวังให้สิ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นไปตามภาพที่หวังไว้

เป็นการขับเคลื่อนชีวิตด้วยการตั้งตัวเป็นผู้กำหนดว่าสิ่งนี้ต้องเป็นอย่างนั้น เรื่องนั้นต้องเป็นอย่างนี้

แต่อย่างที่บอก สรรพสิ่งและทุกเรื่องราวเป็นไปตามเหตุปัจจัย หาได้เป็นไปตามที่ใครปรารถนาให้เป็นไม่ มีบ้างที่เป็นไปตามความอยาก แต่นั่นหมายถึงเหตุปัจจัยที่มาประกอบกันส่งผลให้เป็นอย่างนั้น ต้องเข้าใจเบื้องต้นว่าความอยากให้เป็นไปได้ ทำให้เป็น ที่สำเร็จตามที่หวัง และเกิดการประจวบเหมาะของเหตุที่ทำให้ส่งผลเป็นไปเช่นนั้น

เพราะสรรพสิ่งและทุกเรื่องราวไม่ขึ้นกับความหวัง แต่เป็นไปตามเหตุ ชีวิตจึงไม่มีทางหนีพ้นความผิดหวัง และเป็นธรรมดาที่จะก่อสิ่งที่เรียกว่าปัญหาให้กับชีวิต

เมื่อไล่ทำความเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตมาถึงจุดนี้ สิ่งที่ต้องทำให้เป็นหลักคิดในใจ

คิดแบบเอาความอยากเป็นตัวตั้ง หรือเอาการแก้ไขปรับจูนเป็นเป้าหมาย

คำแนะนำที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ยิ่งคือ

“ปัญหามีก็ต้องแก้ด้วยการเริ่มต้นที่ ทำใจให้เป็นปกติก่อน ให้เห็นว่าทุกเรื่องเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะควรเกิดหรือไม่ควรเกิดก็ตาม

ความสำคัญคือเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า ความจริงมันเป็นแบบนั้นแล้วคิดเพื่อหาทางให้ความจริงนั้นเป็นประโยชน์ต่อวันข้างหน้าให้มากที่สุด

ให้คิดว่าเราทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตแล้ว

และสามารถมีความสุขกับชีวิตได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ไม่มีอะไรทำให้ชีวิตเราเป็นอะไรได้หรอก

หากเรายังเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

ต้องทำให้ตัวเองมีกำลังใจให้สู้ต่อ”

ไม่ใช่ว่าชีวิตเป็นไปอย่างที่หวังไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่าจะสมหวังได้ปัจจัยที่มาประกอบทั้งหมดต้องเป็นไปในทางที่ก่อปฏิกิริยาต่อกันและกันที่ส่งผลไปในทางที่ทำให้เป็นไปตามที่หวัง

ต้องท่องไว้เสมอมันจะไม่เป็นไปตามที่อยาก ถ้าจะเป็นก็คือการประกอบกันขึ้นเกิดเหมาะเจาะพอดีกับที่ปรารถนา

การจัดการในทุกปัญหาอย่างถูกต้องคือการใช้ปัญญาทำให้เหตุที่มาประกอบนั้นเกิดความเหมาะเจาะที่จะส่งผลตามที่ต้องการ

ต้องเข้าใจว่าความไม่สมหวังนั้น แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของความไม่สมอยาก ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการเห็นด้วยปัญญา

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่