(26 ม.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรที่ทำสวนลำไยพื้นที่ ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กำลังเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นลำไย แต่ยังมีเกษตรกรที่โชคดีลำไยในสวนให้ผลผลิตนอกฤดู เก็บขายนักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนรับลมหนาวชมสายหมอกท่ามกลางขุนเขาบนบ้านรักไทย หมู่ 7 ต.ชมพู ทำให้มีรายได้บ้างในระยะนี้ โดยเกษตรกรที่โชคดีรายดังกล่าวคือ นางหวัง แสงสว่าง ชาวสวนลำไยใน หมู่ 7 บ้านรักไทย ต.ชมพู ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีอาชีพทำสวนปลูกลำไยพันธุ์อีดอไว้จำนวน 200 ต้น ในพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ และปลูกทุเรียนพร้อมทั้งสะตอแซมไว้อีกเล็กน้อย
นางหวังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อถึงฤดูแล้งต้องใช้รถกระบะขนน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านรักไทยที่อยู่ห่างจากสวนตนประมาณ 7 กิโลเมตรมารดต้นลำไยทุกวัน ซึ่งปีนี้ก็เช่นกันตนขนน้ำมารดต้นลำไยตลอด คอยดูแลแถมยังเปิดเพลงให้ต้นลำไยฟังทุกวัน โชคดีลำไยออกผลผลิตให้ตอนนี้ถึง 20 ต้น สามารถเก็บผลลำไยไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่พากันมานอนพักผ่อนโฮมสเตย์บนบ้านรักไทยที่มีอยู่หลายแห่งได้ ในราคากิโลกรัมและ 40 บาท โดยจะเก็บผลลำไยได้ 200 กิโลกรัมต่อต้น ทำให้มีรายได้พอสมควร ส่วนต้นลำไยที่เหลือบางส่วนติดช่อออกดอกแล้ว ก็ต้องทำนุบำรุงกันต่อไปยอมลำบากขนน้ำมารดอย่างสม่ำเสมอก็คงจะได้ผลผลิตมาจำหน่ายได้บ้างช่วงเดือนมิถุนายน
ด้านนายพิเชษฐ์ สุขคำมี ชาวสวนลำไยใน หมู่ 7 ต.ชมพู เปิดเผยว่า ตนปลูกลำไยมา 20 ปี จำนวน 800 ต้นในพื้นที่ 40 ไร่ โดยปลูกให้ได้ผลผลิตก่อนฤดูประมาณ 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตที่จะออกมาตรงกับลำไยของ จ.ลำพูน เจ้าของต้นตำรับ สวนลำไยของตนอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำบ้านรักไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ตอนนี้ลำไยเริ่มติดลูกแล้วแต่ประสบกับปัญหาภัยแล้งทำให้เปลือกแห้งต้องหาน้ำมาหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ ลำไยจะได้มีเนื้อดี ที่ผ่านมาตนใช้วิธีสูบน้ำมาใส่แท็งก์ไว้ก่อนปล่อยน้ำมารดต้นลำไยในสวน ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงพอสมควร พอน้ำในอ่างเก็บน้ำบ้านรักไทยลดระดับลง ก็ต้องหยุดสูบน้ำมาใส่แท็งก์ เพราะน้ำในอ่างต้องนำไปผลิตเป็นน้ำประปาใช้อุปโภคบริโภคในหมู่บ้าน ทำให้สวนลำไยของตนต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นลำไยไประยะหนึ่งช่วงฤดูแล้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
