นักวิชาการชี้ กติกาเลือกตั้งสว.สุดพิลึก ใครคว้าตำแหน่งต้องฮั้วเก่งและเฮงด้วย ถึงจะได้เป็นซุปเปอร์มนุษย์

นักวิชาการชี้ กติกาเลือกตั้งสว.สุดพิลึก ใครคว้าตำแหน่งต้องฮั้วเก่งและเฮงด้วย ถึงจะได้เป็นซุปเปอร์มนุษย์

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ผศ.นพพร ขุนค้า อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการคัดเลือก ส.ว.หรือการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้นั้น เชื่อว่าจะมีการฮั้วการมาลงสมัครกันอย่างแน่นอน เพราะการออกแบบการเลือกตั้งลักษณะนี้ถือว่าเป็นวิธีการที่พิสดารที่สุดในโลก โดยมีโจทย์ที่เป็นการตั้งข้อรังเกียจการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง

ซึ่งวิธีการแบบนี้หากจะบอกตรงๆ ว่าถ้าเขาจะฮั้วหรือจะซื้อนั้นง่ายมากกว่าการไปเลือกตั้งในแบบที่ประชาชนเลือกเอง จึงเป็นการสะท้อนไปถึงคนร่างรัฐธรรมนูญว่า สิ่งที่เคยคิดไว้นั้นสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะเขาซื้อง่ายมากกว่า เพราะหากมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนยังลำบาก เพราะต้องไปแนะนำตัว หรือหากจะซื้อก็ต้องด้วยการลงทุนอย่างมาก แต่วิธีการแบบนี้มันง่ายกว่าการเลือกตั้งด้วยซ้ำ

และหากมองย้อนกลับไปที่ว่า การเลือกตั้งที่พิลึกกับอำนาจ ส.ว.ก็ยังมีอำนาจมากอยู่มาก แม้จะไม่มีอำนาจการโหวตนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ ส.ว.มีอำนาจในการเลือกองค์กรอิสระ เลือกศาลรัฐธรรมนูญ ให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ประธานศาลปกครองสูงสุด หากกติกายังเป็นอย่างนี้มันไม่สะท้อนที่มาในความเชื่อมโยงประชาชนอย่างแท้จริง จึงมองว่าหากมีโอกาสก็ควรแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นสภาเดี่ยว หรือสภาผู้แทนราษฎรอย่างเดียวเสียยังดีกว่า จึงเชื่อว่าต้องมีอย่างแน่นอนในการฮั้วการเลือก ส.ว.ในครั้งนี้

Advertisement

สำหรับการฮั้วกันเพื่อมาเป็น ส.ว.นั้น นอกจากจะเก่งแล้วก็ยังต้องเฮงด้วย ที่ต้องมีการไขว้กันและยังต้องเข้าไปจับสลากอีกด้วย แต่สำหรับคนไทยแล้วแม้จะเขียนกติกาออกมาอย่างไรนั้น คนที่เขาจะฮั้วกันเขามีวิธีการอยู่แล้ว ยิ่งบอกว่าปกปิดรายชื่อจนกว่าจะรับสมัครเสร็จ ซึ่งในระดับจังหวัดระดับอำเภอนั้นล้วนเป็นคนที่ต้องเห็นหน้าเห็นตากันอยู่แล้ว ขณะที่บริบทของคนในประเทศไทยนี้เป็นเมืองของนักล็อบบี้นักฮั้วจนเป็นที่ทราบกันอยู่ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเขียนกติกาให้ซับซ้อนอย่างไรก็จะไม่พ้นน้ำมือของคนที่เขาจะคิดในการที่จะรอดกติกาไปได้

ส่วนการแข่งขันกันนั้น เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะมันไม่ใช่การเลือกตั้ง เมื่อไม่ใช่การเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน การช่วงชิงหัวคะแนนการเข้าไปถึงผู้นำชุมชนผู้นำชาวบ้านต่างๆ นั้น จึงไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.หรือการเลือกตั้งในท้องถิ่น จึงทำให้การต่อสู้รุนแรงการช่วงชิงกันนั้นจะไม่เกิดขึ้น แต่จะกลายเป็นการระดมพลเพื่อมาสมัครแล้วเข้าไปเลือกกันเอง เป็นการวางคนเข้ามาเพื่อเลือกกัน

คือ การใช้วิธีการฮั้วกัน และคิดว่า กกต.นั้นคงเอาไม่อยู่ จึงอยากชวนให้ตั้งคำถามโดยไม่ให้ร้ายว่า กกต.เคยรู้ทันหรือไม่ แม้กระทั่งการเลือกตั้งในพื้นที่ บางครั้งเราเห็นการทุจริตแบบชัดแจ้งที่ทำกันอย่างโจ๋งครึ่ม กกต.เห็นหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่การปรามาส กกต. แต่เชื่อว่าท่านตามพวกเขาไม่ทัน เพราะสังคมไทยและกติกาที่ออกแบบมาอย่างที่บอกไปแล้วว่าพิลึก แม้จะเห็นๆ กันอยู่ กกต.ยังควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตได้หรือไม่ ซึ่งเป็นการตั้งคำถามอย่างไม่ได้ให้ร้าย

Advertisement

แต่สุดท้ายก็ยังมองว่าเอาไม่อยู่ถ้าเขาจะใช้วิธีการฮั้ว แม้กติกาจะพิลึกท่านก็จะรู้ไม่เท่าทันคนที่จะดำเนินการฮั้วกัน โดยสังคมไทยเป็นสังคมระบบอุปถัมภ์ที่แยกออกจากกันไม่ได้ แม้จะเห็นอย่างชัดเจนแต่ถามว่าคุณจะทำอะไรได้ เพราะว่าเขามีทางหลบทางหลึกเลี่ยงอยู่แล้ว ถึงวันนี้คนที่เขาจะส่งคนเข้าไปเพื่อมีโอกาสช่วงชิง ส.ว.เขาก็ระดมพล บางคนตั้งใจไปสมัครเพื่ออยากเป็น ส.ว.จริงๆ บางคนไปสมัครเพื่อให้เกิดคะแนนการจัดตั้ง

เขามีการศึกษากติกาอย่างดีเพื่อจะแก้เกม จึงอยากย้อนกลับไปถึง กรธ. หรือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ว่าสิ่งที่ท่านคิดนั้นเป็นการตั้งข้อรังเกียจการเลือกตั้งแบบเป็นการดูถูกประชาชน ที่กลัวว่าจะมีการซื้อเสียง การไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนนั้นมองว่าท่านคิดผิด เพราะท่านรู้ไม่เท่าทันคนในสังคมไทยที่เป็นอยู่ เสียงนี้จึงอยากฝากไปถึง กรธ.ด้วยว่า สิ่งที่คิดกันนั้นผลลัพธ์มันเสียหายกับบ้านเมืองอย่างไร จึงมองว่าใครได้เป็น ส.ว.ชุดนี้ คือ ซุปเปอร์มนุษย์

สำหรับบทลงโทษทางกฎหมายจะป้องกันการกระทำผิดได้หรือไม่นั้น มองว่าไม่มีทาง และยิ่งไม่ใช่การเลือกตั้งโดยตรงอย่างนี้ ยิ่งเป็นไปได้ยาก เวลาเขาให้กันเขาให้ง่ายเพราะการไปปกปิดกันว่าไม่ให้รู้รายชื่อว่ามีใครกลุ่มใดบ้าง ไม่ให้หาเสียงแค่แนะนำตัวเอง คนในจังหวัดในอำเภอนั้นๆ ก็เป็นคนที่เห็นๆ กันอยู่ และไปหากันง่ายกว่าไปหาประชาชนอีก คราวนี้จึงทำให้รู้ตัวได้เลยว่าจะไปซื้อใครแบบชัดๆ เป็นการทำให้ซื้อง่ายกว่าเดิมอีก

แม้จะเขียนกติกาให้มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตก็เอาไม่อยู่ ทางที่ดีที่สุดจะขอย้ำว่า “ที่มาต้องสัมพันธ์กับอำนาจ ส.ว.ถ้าจะมีก็ควรจะมีฐานเชื่อมโยงกับประชาชน” หากจะเขียนไว้อย่างนี้ก็ควรให้ประชาชนเลือกโดยตรงเสียดีกว่า ถ้าจะเขียนกติกาไว้แบบนี้ จึงอยากจะขอขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า “เป็นสภาเดี่ยวเสียดีกว่า” อย่าตั้งข้อรังเกียจประชาชนโดยการกล่าวหาว่านักการเมืองมันซื้อเสียงมาอย่างเดียว แต่แบบนี้ซื้อง่ายกว่าเลือกตั้งด้วยซ้ำไป

“สุดท้ายก็ขออำนวยอวยพรให้การเลือก ส.ว.ครั้งนี้ให้ผ่านไปให้ได้ จากกติกาที่พิลึกซับซ้อน ที่แม้แต่ กกต.เองก็เชื่อว่ายังคงงงๆ กันอยู่ แต่ก็อยากให้ ส.ว.ชุดนี้เข้ามาเพื่อให้ ส.ว. 250 คน ซึ่งเป็นผลผลิตของ คสช.จะได้หมดไป และยังมีความเชื่อและความหวังลึกๆ อีกว่า ส.ว.ชุดใหม่ที่จะเข้าไป 200 คน จะเห็นพ้องกับประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญ ที่ ส.ว.ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยซึ่งเป็นความคาดหวัง เพราะหากกติกาบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยไม่ซับซ้อนและพิลึก ก็คิดว่าผลผลิตกับบ้านเมืองทีออกมามันจะดีกว่านี้” ผศ.นพพรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image