บิ๊กแจ๊ส ขอบคุณคนปทุม มอบให้กว่า 2 แสนคะแนน ย้ำแพ้เลือกตั้งแล้วจบ พรุ่งนี้รักษาคนไข้ต่อ

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 - 16:28 น.

บิ๊กแจ๊ส เตรียมเปิดบริการคนไข้ตั้งแต่พรุ่งนี้ หลังพ่ายศึกชิงนายก อบจ.

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เตรียมเปิดคลินิกการแพทย์แผนไทยบริการคนไข้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมเปิดใจกับผู้สื่อข่าวที่ติดตามความเคลื่อนไหวหลังจากพ่ายศึกการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ให้กับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า เราทำดีที่สุดแล้ว จบแล้วคือจบ ไม่อยากไปโทษใครทั้งสิ้น ในเรื่องกฎหมายก็เป็นเรื่องของกฎหมายไป ทาง กกต.ก็ว่าไปตามระบบ ไม่อยากจะไปประเมินใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยากฝากขอบคุณพี่น้องชาวปทุมธานีด้วยใจจริง ด้วย 201,212 คะแนน จะไม่ลืมเลือนพี่น้องชาวปทุมธานีโดยเด็ดขาด

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า เมื่อคืนหลับสบาย ได้คุยกับลูกหลาน ทั้งนี้ 3 ปี กับ 3 เดือนเป็นภาระที่หนักหน่วง หลังจากเกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมา จนมารับบทนายก อบจ. ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา ได้ดูแลพี่น้องประชาชนในทุกด้าน ยืนยันว่าตลอดการทำงานมาไม่มีวันหยุด ทำงานท่ามกลางโรคระบาดเกือบ 2 ปี เจอโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ น้ำท่วม น้ำแล้ง ฝุ่นละออง เป็นภาระที่หนัก เช้าวันนี้ผมโล่งใจ ได้แต่ขอบคุณพี่น้องประชาชน

“พี่น้องประชาชนเขาทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อย่าให้ออกจากปากผมเลย ไม่ขอวิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่แล้วไปแล้วก็แล้วไป เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจตากกฎหมาย ฝากทาง กกต.ไว้ ฝากศาลยุติธรรมไว้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป 9 โมงเช้าก็จะรักษาคนไข้ตามปกติ วันละ 40-50 คน และจะยกเว้นวันพระเท่านั้นเอง

วันนี้สบายใจ ได้กลับมาใช้ชีวิตสบายๆ อยากให้การเมืองใน จ.ปทุมธานี มีความสามัคคีกัน ที่เราทำงานตลอดเวลา 3 ปีกว่า เราต้องทำงานกับทุกพรรคให้ได้ เราต้องทำงานกับทุกฝ่ายให้ได้ ผมถึงยกตัวอย่างเสมอ ดู จ.สุพรรณบุรี บุรีรัมย์ ถ้าการเมืองยังทะเลาะเบาะแว้งกัน กัดกันไม่จบไม่สิ้น แล้วเห็นแก่ผลประโยชน์กัน จ.ปทุมธานีเมื่อไรก็ไม่เจริญ ใครเป็นรัฐบาลเราก็ต้องประสานได้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า อย่างที่ทำงานในช่วงแรก สมัยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราก็ประสานรัฐมนตรีต่างๆ เพื่อจะดึงงบประมาณมาช่วย เช่น การซื้อวัคซีนให้พี่น้องชาวปทุมธานี โครงการบางโครงการเกินอำนาจ อบจ.ที่งบประมานแค่ 1,750 ล้านบาท แต่สิ่งที่เราทำไว้ปีหน้าเรามีเงินท่วมมา 481 ล้านบาท ผู้ที่มาต่อผมจะมีเงินงบประมาณกว่า 2,250 ล้าน ขอให้บริหารให้เกิดประโยชน์กับประชาชน อย่างโครงการโมโนเรล เราพยายามทำเต็มที่ แต่ต่อจากนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะสานต่อได้หรือไม่ เพราะต้องใช้งบกว่า 30,000 ล้านบาท มันเกินอำนาจของ อบจ. ถ้าเราไปยึดติดกับพรรคใดพรรคหนึ่งมันเป็นอุปสรรคการพัฒนาจังหวัดในภาพรวม

“ปทุมธานีถึงอยู่อย่างนี้ไง อยู่ภายในอำนาจบ้านใหญ่แต่ละบ้าน ยึดครองมาแต่ละจุด แต่ละ อบต. การเมืองท้องถิ่นจะเป็นของใครไม่ได้ ต้องเป็นของประชาชน แล้วอำนาจอยู่ที่พี่น้องประชาชนที่จะให้ใครมาดูแลทุกข์สุข ดูแลหลายๆ ด้านที่เกี่ยวพันกับตัวเขา ผมก็ยืนหยัดกับประชาธิปไตย ถึงผมจะแพ้แต่ผมก็ภูมิใจนะ ผมไม่มองว่าใครจะลงมาช่วยก็ว่ากันไป ให้สะใจไป ผมก็สบายใจของผมแบบนี้

ผมไม่คิดที่จะทะเยอทะยานไป บอกแล้วว่าหลังเกษียณใช้ชีวิตสบายๆ แต่วันนี้เราโดดเรามาสู่การเมือง เพราะคิดว่าบ้านเมืองเราเป็นบ้านเกิดเมืองนอน คิดตอบแทนบ้านเกิดเมืองนอน คิดตอบแทนลูกหลานเรา วางอนาคตให้ลูกหลานเรา เพราะปทุมธานีเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เมืองท้องไร่ท้องนาแบบเก่า วิสัยทัศน์ในการนำพาปทุมธานีที่จะก้าวหน้าต่อไปจะต้องให้ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันสมัย เทคโนโลยีต่างๆ ต้องเข้ามาช่วย จะเห็นว่านวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ เราจะต้องให้ทันกับมัน” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ต้องดูต่อไปในภายภาคหน้า ปีนี้ผม 70 แล้ว ผมสร้างมูลนิธิแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อรักษาคนไข้ตามปณิธานเดิมที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2557 จากนั้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ผมได้เปิดมูลนิธิแห่งนี้และเปิดรักษาคนไข้มาโดยตลอด แต่เมื่อพี่น้องประชาชนต้องการให้เรามาแก้ปัญหา เราก็มาแก้ปัญหาในช่วงวิกฤต ในช่วงโควิด-19 แต่เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว อำนาจของพี่น้องประชาชนให้เรากลับมาอยู่ที่เก่า เราก็กลับมาอยู่ที่เก่า

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปผมก็จะรักษาคนไข้ของพี่แจ๊สไปตลอด หากในอนาคตอะไรที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนผมก็ทำ เพื่อตอบแทนบ้านเกิดผม และอยากเห็นลูกหลานเรามีอนาคตที่ดีเท่านั้น” พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว