แม่ระทม ลูกโดดแม่น้ำเจ้าพระยาดับสลด พบข้อความเศร้า “ความยุติธรรมไม่มีจริง”

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 - 23:08 น.

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ต.ต.ภารดา ตันติรุ่งอรุณ สารวัตรสอบสวนสภ.สวนพริกไทย ได้รับแจ้งเหตุคนกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา(สะพานปทุมธานี1) ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.สวนพริกไทย แพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดปทุมธานีกำลังช่วยกันค้นหาร่างผู้สูญหายอยู่ซึ่งใช้เวลาประมาณ5ชั่วโมงครึ่งจึงพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายทราบชื่อนายนพเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี

จากการสอบถามนางสาวมีนา (สงวนนามสกุล) อายุ17ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า นั่งอยู่ใต้สะพานปทุมธานี 1 ได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายทะเลาะกันอยู่ที่บันไดทางขึ้นสะพาน จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปบนสะพานและเสียงผู้หญิงก็พูดบอก “มึงไม่กล้ากระโดดหรอก” ฝ่ายชายก็กระโดดลง และมีคนตกปลาโยนเชือกมาให้ แต่คนที่กระโดดน้ำจับไม่ได้ จึงจมลงใต้ตอหม้อสะพาน ตนมองอยู่ซักพักหนึ่งก็ไม่เห็นแล้ว ซึ่งคนที่จมน้ำเป็นผู้ชาย

ส่วนนางสาวภาสิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต มาถึงที่เกิดเหตุได้บอกว่ามีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ลูกชายว่าจะมาทำร้าย ตอนนี้ลูกชายโสด เพราะเลิกกับแฟนมาได้ 2 ปี ฝั่งเมียก็มาหาเรื่องลูกชายตนตลอด ก่อนหน้านี้ลูกเครียดเรื่องงาน และก็มีคดีอยู่ ซึ่งตนก็ไปพบกับพนักงานสอบสวนที่สน.สายไหมมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แม่ผู้เสียชีวิตทราบว่าเจอร่างของลูกชายแล้วถึงกับร้องไห้และบอกให้กู้ภัยเรียกหมอนำตัวลูกชายตนเองส่งโรงพยาบาลและให้รีบนำขึ้นมาจากน้ำ

พ.ต.ต.ภารดา ตันติรุ่งอรุณ สารวัตรสอบสวนสภ.สวนพริกไทย หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวางอยู่บนสะพานโดยมีข้อความว่า “เบอร์ญาติ xxxxxxx มารดา ป่วยจิตเวช ใครพบโทรศัพท์เครื่องนี้โปรดรู้ว่าเจ้าของเครื่องนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว รถจอดอยู่ระแวงที่พบโทรศัพท์โปรดนำมาคืนให้มารดาด้วย ความยุติธรรมในประเทศนี้ไม่มีจริงลาก่อน”

หลังจากสอบถามแม่ผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้ตายทำงานรับจ้างทั่วไปและได้เลิกรากับภรรยาไปเมื่อ2 ปี ซึ่งทางภรรยาได้ไปแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายที่สน.สายไหมและได้ถูกออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกายเมื่อปี2566

ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง