จับแล้ว! ไอ้หื่นปีนห้องน้ำปั๊ม ใช้มีดจี้สาวหวังขืนใจ เกมเพราะเบี้ยวค่านวด-อุปกรณ์เสพยา

ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำหญิง ภายในสถานีบริการน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้แล้ว หลังคนร้ายเมื่อยตัวเข้าไปใช้บริการร้านนวด แต่คิดเบี้ยวค่าบริการ เจ้าของร้านจึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในห้องน้ำ

จากรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เตือนภัยผู้มาใช้บริการห้องน้ำหญิง ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยข้อความระบุว่า “เมื่อคืนประมาณสี่ทุ่ม เพื่อนแจ้งข่าวด่วนมา หลานสาวของกลุ่มเพื่อน ไปเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมัน ปตท. ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลราชพฤกษ์ ขอนแก่น มีผู้ชายใส่แมสก์มาเข้าห้องข้างๆ แล้วปีนข้ามห้องมาใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับให้หลานสาวเงียบ แล้วมันก็ถอดกางเกงมันเอง หลานตกใจเลยตะโกนเรียกเพื่อนเสียงดัง สะบัดแขนหลุดจากมือมัน เลยโดนคัตเตอร์กรีดที่แขน โจรมันเห็นท่าไม่ดี ทิ้งมีดคัตเตอร์วิ่งหนีออกมาขี่รถมอเตอร์ไซด์หายไป หลานโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจสายสืบมาดูกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ และให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ส่วนตำรวจสายสืบจะติดตามจับตัวคนร้าย ตำรวจมุ่งเป้าไปที่แค้มป์คนงานก่อสร้างที่กำลังสร้างตึก 20 ชั้นที่โรงบาลศรีนครินทร์ เมื่อคืนกว่าจะเสร็จกลับถึงบ้านตี 2 เตือนลูกหลานเด้อ มืดค่ำจะเข้าห้องน้ำสาธารณะ ควรมีเพื่อนเดินไปด้วยกัน อย่าเดินเข้าไปคนเดียว ภัยรอบตัว ภัยใกล้ตัว เกิดขึ้นจริง น่ากลัวมาก” ซึ่งเหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ต.ท.สุพล หร่อยดา สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันเข้าจับกุม นายกัณหา พรมเลิศ หรือ “นายหา” อายุ 31 ปี ชาว ต.กุดจิก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู หลังได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของร้านวดแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านหัวทุ่ง-คำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่า มีลูกค้าเป็นชายรายหนึ่ง มาใช้บริการที่ร้านเป็นเวลา 2 ชั่วโมง แต่หลังจากนวดเสร็จกลับไม่ยอมจ่ายเงิน และมีอาการคล้ายคนติดยาเสพติด โดยขณะเข้าจับกุมตัว นายหา ได้นั่งอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นในตัว กระทั้งพบอุปกรณ์เสพยาเสพติด เช่น กระดาษฟรอยด์มีรอยเผาไหม้และคราบเขม่าสีดำ จำนวน 1 กรวย หลอดสำหรับดูดควัน จำนวน 1 หลอด และไฟแช็คแก๊ส จำนวน 1 อัน และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู้ปปี้ไอ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน 1กภ 2472 อุดรธานี ที่ขับขี่มาที่ร้าน ก่อนจะจึงได้ควบคุมมาที่ สภ.บ้านเป็ด

พ.ต.อ.ณชรต แก้วเพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เปิดเผยว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการจับกุมตัวนายหา ผู้ต้องหา และก่อนจะตรวจสอบทราบภายหลังว่า นายหา คือบุคคลเดียวกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับหญิงสาวในห้องน้ำหญิง ภายในสถานีบริการน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้รับแจ้งจากร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งที่บ้านหัวทุ่ง-คำไฮ ต.บ้านเป็ด ว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าบริการ จำนวน 900 บาท จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อนายหา เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ร้าน ก็ได้โทรศัพท์หาหญิงรายหนึ่ง อ้างว่าเป็นภรรยา ให้ช่วยจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับทางร้าน จนกระทั่งภรรยานายหาโอนเงินมาให้ทางร้าน ทางร้านจึงไม่ติดใจเอาผิด แต่ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นว่านายหา มีท่าทางพิรุธจึงได้ขอตรวจสอบกระเป๋าของนายหา ก่อนจะกรวยที่ทำจากกระดาษฟรอยด์มีรอยเผาไหม้และคราบเขม่าสีดำ จำนวน 1 กรวย หลอดสำหรับดูดควัน จำนวน 1 หลอด และ ไฟแช็คแก๊ส จำนวน 1 อัน จึงได้ควบคุมมาที่ สภ.บ้านเป็ด ก่อนที่จะขยายผลตรวจยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู้ปปี้ไอ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน 1กภ 2472 อุดรธานี และเมื่อตรวจปัสสาวะมีผลเป็นบวก และเมื่อส่งผลปัสสาวะไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลบ้านฝาง พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย จึงได้ควบคุมตัวในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”

ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด เปิดเผยอีกว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมขังนายหา เพื่อรอส่งตัวขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อฝากขัง ก็ได้รับทราบข้อมูลจากโซเชียลว่า มีคนร้ายก่อเหตุ แอบเข้าห้องน้ำหญิง แล้วปีนข้ามผนังห้องน้ำเข้าไปก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในห้องน้ำหญิง เหตุเกิดภายในสถานีบริการน้ำมัน ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนจะส่งชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น มาตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานของนายหา กระทั้งพบว่า เป็นคนเดียวกัน จึงประสานส่งตัวนายหา ให้ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น นำตัวดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นทราบว่า นายหาเป็นคนงานก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เมื่อสอบสวนเสร็จแล้วจะได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่