9ปีของลูกหนังจอร์เจีย จากจุดต่ำสุดสู่บันทึกบทใหม่ในยูโร2024

9ปีของลูกหนังจอร์เจีย จากจุดต่ำสุดสู่บันทึกบทใหม่ในยูโร2024

จอร์เจีย ชื่อนี้แฟนบอลไทยเริ่มคุ้นหูเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากถล่มทีมชาติไทย 8-0 ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว แต่สำหรับคนที่ดูฟุตบอลยุโรปแบบใกล้ชิด ก็จะรู้จักจอร์เจียผ่านชื่อของนักเตะชื่อดังหลายคน โดยเฉพาะ ควิชา ควารัตสเคเลีย ปีกจอมเทคนิคจากนาโปลี จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ผู้รักษาประตูจากบาเลนเซีย

ถ้ามองในเรื่องฟุตบอล จอร์เจียไม่ได้เป็นชาติชั้นนำของยุโรป ไม่ได้มีลีกที่แข็งแรง และสโมสรในประเทศก็ไม่ได้ไปไกลในถ้วยยุโรปแต่อย่างใด แต่ก็ก่อร่างสร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังของตัวเองมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เริ่มต้องจดบันทึกเรื่องราวใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยูโร 2024

Advertisement

จอร์เจียไม่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ระดับยูโรหรือฟุตบอลโลกมาก่อน นับตั้งแต่แตกออกมาจากสหภาพโซเวียต เมื่อ 33 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประชาชนในกรุงทบิลิซีหลายหมื่นชีวิตได้ออกมาฉลองการได้ลุยยูโร 2024 กันอย่างสุดเหวี่ยง เป็นความสำเร็จ ครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลจอร์เจีย แต่หลายคนคงรู้สึกว่าไม่ว่าผลงานจะยับเยินแค่ไหนในรอบสุดท้าย นี่ก็ถือเป็นความสำเร็จแล้ว

ทีมที่อยู่ในฟีฟ่า แรงกิ้ง อันดับ 74 ของโลก เป็นทีมที่อันดับโลกต่ำสุดในยูโรหนนี้ และต้องมาร่วมกลุ่มกับตุรกี, เช็ก, โปรตุเกส ที่เก๋าเกมกว่า องค์ประกอบของนักเตะเหนือกว่ามาก ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะรอดเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้

ถึงแม้จะผ่าน 2 เกมแรกของกลุ่มไปแล้ว แต่จอร์เจียก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะไปถึงรอบ 16 ทีมได้ มีแค่แต้มเดียวจาก 2 นัด ด้วยการแพ้ตุรกี 1-3 และเสมอเช็ก 1-1 ยิ่งเกมสุดท้ายที่ต้องเจอกับโปรตุเกสแล้ว ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะล้มยักษ์ได้ แต่ปากกาเซียนก็หักไม่เหลือซาก เมื่อจอร์เจียเอาชนะ 2-0 กรุยทางเข้ารอบต่อไปได้ แม้จะต้องไปเจอกับสเปน แต่เส้นทางที่เดินมานับเป็นกำไรของวงการลูกหนังจอร์เจี้ยนแล้ว

Advertisement

วิลลี่ ซาญอล กุนซือทีมชาติจอร์เจียบอกว่า ทีมชุดนี้มายูโรเพื่อทำความรู้จักและเก็บประสบการณ์เพื่ออนาคตเท่านั้น ดังนั้นการได้มาเล่นรอบสุดท้ายจึงถือเป็นความสำเร็จ ไม่ว่าจะได้อะไรกลับบ้านไปหลังจากนี้ นับเป็นโบนัสทั้งหมด

ถ้ามองย้อนกลับไปจากวันที่แยกตัวมาเป็นประเทศอย่างเต็มตัว จอร์เจียไม่ได้มีระบบฟุตบอลที่ดี พวกเขาเคยหลุดจากท็อป 150 ของโลก เมื่อปี 2015 ไร้ความสำเร็จ ลีกภายในประเทศเต็มไปด้วยการล็อกผล ขาดสนามซ้อม สนามแข่ง ที่มีมาตรฐาน

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีนักเตะจอร์เจี้ยนที่ออกไปสร้างชื่อเสียงนอกประเทศมาแล้ว ทั้ง **จอร์จี้ คินลาดเซ่** ที่ไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาค่า คาลัดเซ่ ของเอซี มิลาน โชต้า อาร์เวลัดเซ่ กับอาแจ็กซ์และเรนเจอร์ส แต่สิ่งที่ทำให้ทีมชาติไปไหนได้ไม่ไกล เพราะจอร์เจียไม่สามารถเล่นร่วมกันเป็นทีมได้อย่างที่ควรจะเป็น

PHOTO : facebook.com/GeorgiaGFF

เลวาน คอเบียชวิลี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลจอร์เจีย เข้ามารับตำแหน่งในปี 2015 จากการที่เขาเคยรับใช้ชาติในฐานะนักเตะมามากกว่า 100 นัด ทำให้รู้ว่าลูกหนังบ้านตัวมีปัญหาตรงไหน จึงเดินหน้าอุดรูรั่วมาเรื่อยๆ ทั้งการปรับปรุงสนาม เพิ่มฐานนักเตะ ที่สำคัญเพิ่มจำนวนแฟนบอลที่เช้าชมเกมลีก จากเฉลี่ย 200,000 คนต่อฤดูกาล เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เป็น 2.6 ล้านคน ในปี 2022

แม้แต่สโลแกนของทีมชาติยังมีการใช้ประโยคที่ว่า “ความแข็งแกร่งคือความเป็นหนึ่งเดียวกัน” นับเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้จอร์เจียอันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแฟนบอลชาวไทยก็เห็นมาแล้ว จากเกมอุ่นเครื่องที่ช้างศึกแพ้ไป 0-8

ทีมจอร์เจียชุดนี้ถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชาตินับตั้งแต่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ยูโร 2024 พวกเขาได้รับเหรียญกล้าหาญจากรัฐบาล ธนาคารแห่งชาติก็ออกเหรียญที่ระลึกในโอกาสสำคัญนี้

รัฐบาลจอร์เจียมองว่าความสำเร็จในขั้นต้นของฟุตบอลทีมชาติไม่ได้มีผลดีต่อวงการลูกหนังที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นนักเตะอาชีพเท่านั้น แต่มองไปถึงการเพิ่มจอร์เจียเข้าไปในแผนที่กีฬาโลก สร้างความรู้จักประเทศตัวเองกับสังคมโลก กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศจากโฆษณาและสปอนเซอร์ต่างๆ
เมื่อเกิดแรงบันดาลใจจากความสำเร็จ การลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภคด้านกีฬาในประเทศจะเพิ่มขึ้น การมีส่วนร่วมของเยาวชนในการอยากจะเติบโตไปเป็นนักกีฬา สร้างสุขภาวะทางร่างกายที่ดีให้กับประชาชนได้อีกทางหนึ่ง

ถ้าจะบอกการรีแบรนด์ลูกหนังจอร์เจียของคอร์เบียชวิลี่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาเฮดังมากในยูโร 2024 ก็คงไม่ผิดนัก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image