ตัดเกรด-กางสถิติ 11 แข้งยอดเยี่ยมยูโรรอบแรก

ตัดเกรด-กางสถิติ 11 แข้งยอดเยี่ยมยูโรรอบแรก

ช่วงนับถอยหลังเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 เว็บข่าวกีฬา Give Me Sport ทำการจัดอันดับทีมยอดเยี่ยม 11 ตัวจริงประจำทัวร์นาเมนต์จากรอบแบ่งกลุ่มโดยอ้างอิงสถิติและผลงานในสนามตลอด 3 นัดที่น่าสนใจ

ใครเป็นใครกันบ้าง ไปดูกัน

Advertisement

ผู้รักษาประตู – จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ (จอร์เจีย)

ลงสนาม 270 นาที คลีนชีท 1 นัด เสีย 4 ประตู เคลียร์บอลต่อนัด 1.7 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.76

นายทวารวัย 23 ปี จากสโมสรบาเลนเซีย มีส่วนสำคัญอย่างมากให้จอร์เจียที่เพิ่งเข้าไปเตะรอบสุดท้ายฟุตบอลระดับเมเจอร์หนแรกผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้ ถึงเขาจะเสียไป 4 ประตู มากกว่าผู้รักษาประตูหลายทีม แต่ก็เป็นเพราะเขาต้องเจอลูกยิงนับไม่ถ้วน

Advertisement

แบ๊กซ้าย – มาร์ค คูคูเรย่า (สเปน)

ลงสนาม 180 นาที ผ่านบอลสำเร็จ 86.7 เปอร์เซ็นต์ แย่งบอลในอากาศสำเร็จต่อนัด 3 ครั้ง สกัดบอลต่อนัด 3.5 ครั้ง ตัดบอลต่อนัด 2 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.68

ความที่เขาฟอร์มไม่ดีกับเชลซีในระดับสโมสรทำให้คูคูเรย่าโดนวิจารณ์หนักก่อนทัวร์นาเมนต์ แต่เมื่อถึงเวลาจริง คูคูเรย่าเหมือนคืนร่างสมัยอยู่กับไบรท์ตัน ส่วนหนึ่งเพราะการใช้งานอย่างถูกวิธีของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ แต่จะรักษาฟอร์มต่อเนื่องกลับไปที่สโมสรได้หรือไม่ ต้องรอติดตาม

เซ็นเตอร์แบ๊ก : อเลสซานโดร บาสโตนี่ (อิตาลี)

ลงสนาม 270 นาที ทำ 1 ประตู ผ่านบอลสำเร็จ 93.1 เปอร์เซ็นต์ สกัดบอลต่อนัด 1.7 ครั้ง เคลียร์บอลต่อนัด 3.3 ครั้ง ผ่านบอลต่อนัด 86.7 ครั้ง เรตติ้งรวม 6.87

ก่อนศึกยูโรจะเริ่ม หลายคนยกให้บาสโตนี่เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดของยุคนี้ และเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นเมื่อถึงเวลาจริง ด้วยความโดดเด่นเรื่องการเล่นลูกในอากาศ และความแข็งแกร่งภาคพื้นดิน ด้วยอายุเพียง 25 ปี ถ้าอิตาลีไปได้ไกลในรายการนี้ เชื่อว่าเขาจะยิ่งอัพราคาค่าตัวให้ตัวเองและอาจจะโดนรุมจีบหลังจบการแข่งขัน

เซ็นเตอร์แบ๊ก – เปเป้ (โปรตุเกส)

ลงสนาม 173 นัด ผ่านบอลสำเร็จ 94.5 เปอร์เซ็นต์ แย่งบอลในอากาศสำเร็จต่อนัด 1.5 ครั้ง สกัดบอลต่อนัด 3 ครั้ง เคลียร์บอลต่อนัด 4.5 ครั้ง ผ่านบอลต่อนัด 75 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.22

แม้อายุจะปาเข้าไป 41 ปี จนเป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุมากสุดในประวัติศาสตร์ยูโร แต่อดีตสตาร์จากรีล มาดริด ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และอาศัยความเก๋าช่วยทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาจับคู่กับ รูเบน ดิอาส ช่วยตัดจังหวะอันตรายได้บ่อยครั้ง แถมยังกล้าเล่น กล้าเสี่ยงแบบไม่กลัวใคร

แบ๊กขวา – ดานี่ คาร์บาฆาล (สเปน)

ลงสนาม 180 นาที ทำ 1 ประตู ผ่านบอลสำเร็จ 89.9 เปอร์เซ็นต์ สกัดบอลต่อนัด 1.5 ครั้ง ตัดบอลต่อนัด 1 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.25

เขาทำหน้าที่ทั้งเกมรับและเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับปรัชญาการเล่นปัจจุบันของทีมกระทิงดุเป็นอย่างดี คาร์บาฆาลเป็นหนึ่งในผู้เล่นสเปนที่โดดเด่นที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ไม่ใช่แค่ผลงานในสนาม แต่เพราะเขายังมีความเป็นผู้นำ และมีอิทธิพลกับเพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องๆ อย่างมากในห้องแต่งตัว

มิดฟิลด์ – โทนี่ โครส (เยอรมนี)

ลงสนาม 260 นาที ผ่านบอลสำเร็จ 95.3 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลสำคัญต่อนัด 3 ครั้ง ผ่านบอลต่อนัด 113.3 ครั้ง เปิดบอลต่อนัด 1.7 ครั้ง โยนบอลยาวต่อนัด 5.7 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.45

โครสไปสมทบเพื่อนร่วมทีมช้าเนื่องจากติดภารกิจลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้เขามีเวลาลงเล่นเกมอุ่นเครื่องให้ทีมชาติก่อนยูโรเพียง 10 นาที แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับแข้งจอมเก๋ารายนี้ เขายังคงผ่านบอลจังหวะสำคัญๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยประสบการณ์ช่วยทีมได้ในหลายจังหวะ โดยเฉพาะการเป็นกำลังเสริมให้รุ่นน้องๆ สมกับเป็นการทิ้งทวนทัวร์นาเมนต์สุดท้ายก่อนแขวนสตั๊ด

มิดฟิลด์ – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ฝรั่งเศส)

ลงสนาม 241 นาที ผ่านบอลสำเร็จ 87.4 เปอร์เซ็นต์ สกัดบอลต่อนัด 2.3 ครั้ง ตัดบอลต่อนัด 1 ครั้ง ผ่านบอลสำคัญต่อนัด 2.3 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.26

ตอนที่กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ใส่ชื่อก็องเต้ติดทีมมาด้วย หลายคนแปลกใจมาก เพราะเขาไม่ได้ผลงานโดดเด่นเหมือนเก่า แถมยังไปค้าแข้งในลีกซาอุดีอาระเบียห่างไกลจากพื้นที่สื่อ แต่เมื่อถึงเวลาจริง ก็องเต้ก็ย้อนเวลากลับไปเหมือนสมัยหนุ่มๆ เขาวิ่งครอบคลุมพื้นที่ทุกจุดในสนามแบบไม่มีท่าทีเหนื่อยล้า การันตีด้วยรางวัลเพลเยอร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 2 นัด

มิดฟิลด์ – ฟาเบียน รุยซ์ (สเปน)

ลงสนาม 180 นาที ทำ 1 ประตู แอสซิสต์ 2 ลูก ผ่านบอลสำเร็จ 93.5 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลต่อนัด 69.5 ครั้ง เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งต่อนัด 2.5 ครั้ง เรตติ้งรวม 8.39

ก่อนยูโรเปิดฉาก ทีมกระทิงดุไม่ใช่ตัวเต็งอันดับต้นๆ ในมุมมองของสื่อและนักวิจารณ์ แต่เมื่อถึงเวลาจริง พวกเขาก็ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง และรุยซ์ก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะการครองบอลอย่างใจเย็น พาบอลขึ้นหน้า การขยับไปเล่นได้ในพื้นที่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง จนได้รับคำชมจากกุนซือ เด ลา ฟูเอนเต้ ว่า เขาทำได้ทุกอย่าง และทำได้ดีทุกอย่างอีกด้วย

ปีกซ้าย – ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (เยอรมนี)

ลงสนาม 197 นาที ทำ 1 ประตู พยายามยิงประตูต่อนัด 1.3 ครั้ง ผ่านบอลสำเร็จ 92.5 เปอร์เซ็นต์ เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งต่อนัด 1.3 ครั้ง ผ่านบอลสำคัญต่อนัด 1 ครั้ง เรตติ้งรวม 6.98

หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีในระดับสโมสรกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จนเกือบจะมีฤดูกาลไร้พ่ายชนิดสมบูรณ์แบบ แข้งวัย 21 ปี ก็ได้รับการคาดหวังว่าจะนำทีมอินทรีเหล็กประสบความสำเร็จที่บ้านเกิด ถึงแม้จะยังยิงประตูไม่ได้มาก แต่เขาก็มีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีม ทั้งการเลี้ยงบอล ความขยันในการครอบคลุมพื้นที่ การเปลี่ยนสปีดเกม

กองหน้า – จอร์เจส มิเคาตัดเซ่ (จอร์เจีย)

ลงสนาม 268 นาที ทำ 3 ประตู แอสซิสต์ 1 ลูก พยายามยิงประตูต่อนัด 2 ครั้ง ผ่านบอลสำเร็จ 83.9 เปอร์เซ็นต์ เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งต่อนัด 2.3 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.41

มิเคาตัดเซ่เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของชาติเล็กๆ แห่งนี้ตลอด 3 นัดแรก โดยเฉพาะเกมประวัติศาสตร์เอาชนะโปรตุเกส 2-0 ในนัดสุดท้าย ด้วยประสิทธิภาพหน้าประตู การันตีจากสถิติยิง 13 ลูก จาก 20 นัด ให้เม็ตซ์ในฤดูกาลล่าสุด มาทัวร์นาเมนต์นี้เขายิงไปแล้ว 3 ประตู นำดาวซัลโว แถมยังประสานงานกับ ควิชา ควารัตสเคเลีย ได้อย่างเข้าขา

ปีกขวา – จามาล มูเซียล่า (เยอรมนี)

ลงสนาม 222 นาที ทำ 2 ประตู พยายามยิงประตูต่อนัด 1.7 ครั้ง ผ่านบอลสำคัญต่อนัด 1.3 ครั้ง เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งต่อนัด 3 ครั้ง เรตติ้งรวม 7.77

ดาวรุ่งวัย 21 ปี จากบาเยิร์น มิวนิก โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในการเจาะแนวรับคู่ต่อสู้ และเลี้ยงบอลอย่างเนียนตา ผู้เล่นตำแหน่งปีกขวาในทัวร์นาเมนต์นี้เล่นได้เด่นหลายคน โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล ไอ้หนูวัย 16 ปีของสเปน แต่มูเซียล่าก็ยังมีภาพรวมที่เหนือกว่า โดยเฉพาะการทำไปแล้ว 2 ประตู ซึ่งทำให้เขาเครดิตดีกว่าคนอื่น ณ เวลานี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image