พันธ์ผกา หยิบแชมป์อาชีพที่ 2 ผงาดศึกสะวิง สิงห์-บีจีซี ม่วนซื่น ที่เขื่อนอุบลรัตน์

พันธ์ผกา หยิบแชมป์อาชีพที่ 2 ผงาดศึกสะวิง สิงห์-บีจีซี ม่วนซื่น ที่เขื่อนอุบลรัตน์

“โปรโบว์” พันธ์ผกา พันธุมะบำรุง นักกอล์ฟวัย 32 ปีจากกรุงเทพฯ คว้าแชมป์รายการที่ 2 สำเร็จ ปิดเกมรอบสุดท้าย อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวัน 5 อันเดอร์พาร์ 211 คว้าโทรฟี่ โทรฟี่ในคอนเซ็ปต์ “หยาดเหงื่อและแรงกาย” จากศิลปินเป่าแก้ว บีจีซี กล๊าส สตูดิโอพร้อมเงินรางวัลอีก 238,000 บาท ขณะที่ กรกนก สูงปานเขา คว้ารองแชมป์สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 215 ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ สิงห์ บีจีซี ม่วนซื่น พรีเซนเตด บาย อีแกท ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านบาท ณ สนามเขื่อนอุบลรัตน์ กอล์ฟ คอร์ส แบบพาร์ 72 ระยะ 6,474 หลา จ.ขอนแก่น จบรอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 เมษายน

สนามนี้นับเป็นสนามที่ 5 ของการแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ 2023 เก็บคะแนนสะสม ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ ออเดอร์ ออฟ เมอริต ประจำปี 2023 และสะสมคะแนน ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ พอยท์ 2023 เปิดโอกาสนักกอล์ฟทั้งระดับอาชีพ และสมัครเล่นได้พัฒนาฝีมือ นอกจากนี้ยังมีคิดคะแนนสะสมอันดับโลก “โรเลกซ์ วีเมนส์ เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง” ให้กับนักกอล์ฟในทัวร์ เล่นสโตรกเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน

รอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 เมษายน “โปรโบว์” พันธ์ผกา พันธุมะบำรุง นักกอล์ฟสาวจากกรุงเทพฯ วัย 32 ปี ที่ออกสตาร์ตรอบนี้ด้วยการตามผู้นำสโตรกเดียว ก่อนเก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 จากผลงาน 4 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ ทำสกอร์รวมสามวัน 5 อันเดอร์พาร์ 211 คว้าแชมป์ในรายการนี้ไปครอง พร้อมรับโทรฟี่สุดคลาสสิกหนึ่งเดียวในโลก “หยาดเหงื่อและแรงกาย” จากศิลปินเป่าแก้วจาก บีจีซี กล๊าส สตูดิโอ

Advertisement

แชมป์นี้นับเป็นถ้วยแชมป์ระดับอาชีพรายการที่ 2 ของ พันธ์ผกา หลังคว้าแชมป์แรกในอาชีพจากการแข่งขัน ไทย แอลพีจีเอทัวร์ เมื่อปี 2015 ที่สนามปัญญาฯ รวมถึงการคว้ารองแชมป์ในสนามนี้จากการแข่งขันเมื่อ 2 ปีที่แล้วกล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “พอใจกับผลงานของตัวเอง ทำได้ตามแผน ให้โอกาสตัวเองเยอะ ถือว่าประสบความสำเร็จ หลังจากรอคอยตำแหน่งแชมป์ที่ 2 มานาน อยากขอบคุณสปอนเซอร์ทุกราย ครอบครัว สมาคม และสนามกอล์ฟ ที่จัดการแข่งขันนี้ขึ้น”

อันดับ 2 เป็น กรกนก สูงปานเขา สวิงดาวรุ่งวัย 17 ปีจาก กาฬสินธุ์ ที่จบด้วยผลงานรวม 1 อันเดอร์พาร์ 215 รับเงินรางวัล 153,000 บาท โดยมี โคโตวะ ฮาโตะ จากญี่ปุ่น, ชลดา ชยณรรย์ และ ษมาพร แข็งขันธ์ คว้าอันดับ 3 ร่วมด้วยสกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 218 แบ่งเงินรางวัลกันไปคนละ 88,966.67 บาท

ทางด้าน บุษบากร สุขพันธ์ ผู้นำจากสองวันแรกเกิดมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้จบสกอร์ 8 โอเวอร์พาร์ 80 ทำสกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 220 คว้าอันดับ 10 ร่วมกับ สราพร แช่มช้อย, พัชรจุฑา คงกระพันธ์, กัญญาณัฐ สายทิพย์ และ ฐานิตา เมืองคำสกุล

Advertisement

ด้านรางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นผลงานดีสุดเป็นของ นะโม หลวงนิติกุล สะวิงโครงการทีมชาติไทย ที่จบด้วยอันดับ 21 ร่วมสกอร์รวม 9 โอเวอร์พาร์ 225 ขณะที่รางวัลตีดีประจำวัน รับกิฟต์เวาเชอร์ มูลค่า 12,000 บาท จาก บริษัท ลีโอเนียน (ประเทศไทย) จำกัด โดยรอบแรกเป็นของ บุษบากร สุขพันธ์ จากสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 รอบสองเป็นของ กัญญาณัฐ สายทิพย์ สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69 และรอบที่ 3 เป็นของ พิสิษฐ์ขวัญ ภู่รัตนโอภา สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69 ขณะที่ รางวัลตีไกลที่หลุม 15 เป็นของ พลอยชมพู วิไลรุ่งเรือง ระยะ 274 หลา

พิธีมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก นายกฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี พร้อมด้วย คุณพิพัฒน์ คงสินทวีสุข ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, คุณจาตุรนต์ ใกล้จันอัด หัวหน้ากลุ่มงานนันทนาการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ คุณพุฒิสรรค์ ศรีจารุวิภาส ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน ร่วมงาน

สำหรับการแข่งขันสนามต่อไปของ ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นการแข่งขันรายการ สิงห์-บีจีซี คลาสสิก ชิงเงินรางวัล 1.2 ล้านบาท แข่งขันระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2566 ณ สนาม พานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image